ในสมัยราชวงศ์ถัง อันถือได้ว่าเป็นจักรวรรดิที่รุ่งเรืองที่สุดของประวัติศาสตร์จีน หากในช่วง คริสตศักราชที่ 859 ราชวงศ์ถังก็ถึงกาลตกต่ำ อันเนื่องมาจากการไร้ซึ่งความสามารถขององค์จักรพรรดิ เป็นเหตุให้เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวงโดยบรรดาขุนนาง จนเหล่าราษฎรได้รับความเดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง ในที่สุดจึงเกิดกลุ่มกบฏขึ้นมามากมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านการกระทำของขุนนางเหล่านี้ และกลุ่มกบฏที่สามารถรวมตัวกันได้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดมีนามว่า สำนักมีดบิน ซึ่งมีการทำงานกันอย่างลับๆ ด้วยการออกปล้นทรัพย์สินของบรรดาคนรวย เพื่อนำไปช่วยผู้ที่ยากไร้ จนชาวบ้านต่างก็พากันยกย่องในการกระทำของพวกเขา กระทั่งสำนักมีดบินสามารถแผ่ขยายสาขาของสำนักออกไปอีกอย่างกว้างไกล ซึ่งแม้ว่าเจ้าสถูกสังหารไปแล้วก็ตาม แต่สำนักมีดบินก็ยังคงดำเนินงานต่อไป ภายใต้การนำของผู้นำคนใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยตัว และเมื่อสำนักมีดบินเริ่มเรืองอำนาจขึ้นเรื่อยๆ 2 หัวหน้ามือปราบแห่งมณฑลเฟิงเทียนคือ เหลียว (หลิวเต๋อหัว) และ จิน (ทาเคชิ คาเนชิโร่) จึงได้รับคำสั่งให้ออกตามจับเจ้าสำนักคนใหม่ให้ได้ภายในเวลา 10 วัน มือปราบเหลียวนั้นสงสัยว่า เม่ย (จางซิยี่) นางรำสาวสวยแห่งสำนักโคมเขียวจะเป็นบุตรสาวของเจ้าสำนักคนเก่า ดังนั้นจึงวางแผนที่จะจับกุมตัวเธอมาเพื่อทำการสอบสวน แต่เมื่อเม่ยไม่ยอมเอ่ยปากแพร่งพรายใดๆเกี่ยวกับสำนักมีดบิน มือปราบหนุ่มทั้งคู่จึงต้องวางแผนอีกครั้ง โดยหนนี้จินได้ปลอมตัวเป็นนักรบหนุ่มผู้อ้างว้างที่มีนามว่า วายุ พร้อมกับทำการช่วยเหลือเม่ยออกมาจากที่คุมขัง เพื่อที่จะทำให้เธอเกิดความไว้วางใจและจากนั้นจึงหลอกล่อให้เธอพาเขาไปยังที่ตั้งของสำนักมีดบิน แผนการต่างๆดำเนินไปอย่างราบรื่น ทว่า..ในระหว่างการเดินทางนั้น จินและเับมีความรู้สึกที่ดีต่อกันเกิดขึ้น ฝ่ายเม่ยเองรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของวายุ ในขณะที่วายุนั้นก็หลงเสน่ห์ของเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทุกหนแห่งที่พวกเขาเดินทางผ่านไป ล้วนแล้วแต่มีผู้ปองร้ายแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ทุกย่างก้าว แต่ไม่ว่าทั้งคู่จะต้องเผชิญกับขวากหนามใดๆ หากมันก็คือบทพิสูจน์ในความเป็นตัวตนและความรักที่ต่างฝ่ายต่างมีต่อกันว่าสิ่งใดจะสำคัญกว่ากันระหว่าง หน้าที่ และ ความรัก
ใส่ความเห็น